นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงรอยร้าวในรัฐบาลที่เกิดขึ้นว่า ปัญหาสำคัญมาจากพรรคร่วมที่ต่างฝ่ายต่างชิงดีชิงเด่นทำในสิ่งที่ได้คะแนนเข้าพรรคตัวเอง ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีความเข้าใจในการทำงานกับพรรคร่วม
อย่างไรก็ตาม ที่เป็นห่วงกันว่ารัฐบาลจะล้มนั้น ไม่น่าห่วง หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังคุม ส.ว.ได้ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ถึงอย่างไรก็กลับมาเป็นนายกฯ แต่ปัญหาคือ การขาดภาวะการนำที่ดีเป็นผลเสียต่อประเทศ เช่น การแบนสารพิษอันตรายซึ่งขาดการเตรียมการล่วงหน้า ไปคนละทิศคนละทาง และสุดท้ายนายกฯ ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
อีกเรื่องที่สำคัญคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่แต่ละกระทรวงไปคนละทิศละทาง มาตรการของกระทรวงการคลัง แจกแล้วแจกอีกไม่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตการจ้างงาน กระทรวงคลังกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ก็ทำกันไป เป็นมาตรการกระทรวงการคลังขาเดียว ทั้งที่กระทรวงการคลังต้องดูมาตรการการคลังที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงหลักๆ ทั้งหลายด้วย
"นายกฯ ต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงกระทรวงด้านเศรษฐกิจทั้งหมดเพื่อวางระบบใหม่ให้ประสานเชื่อมโยงกัน ซึ่งถือว่ายาก แต่ต้องรีบทำไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหาย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องปรับการทำงานใหม่หมด ถ้ารับผิดชอบเรื่องเศรษฐกิจไม่ไหวก็ให้คนอื่นทำแทนแล้วมีอำนาจสั่งทุกกระทรวงได้จะเป็นการผ่อนหนักเป็นเบา การจะนัดมีตติ้งพรรคร่วมยังไม่เพียงพอ เพราะเวลานี้เศรษฐกิจเสียหายยับเยิน ต้องการอะไรมากกว่านั้น" อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :