ไม่พบผลการค้นหา
มติ 7 พรรคเล็กดัน ‘มงคลกิตติ์’ เข้าชิงรัฐมนตรี ย้ำควรให้โอกาสตัวแทน 11 พรรคเล็กเข้าร่วมทำงาน การันตีหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์เปลี่ยนนิสัย การวางตัวใหม่ให้ประชาชนยอมรับแล้ว ย้ำสถานการณ์ปกติใหม่ต้องให้คนรุ่นใหม่เข้ามา

ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย แถลงว่า กลุ่มพรรคเล็กไม่เคยเรียกร้องให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ถ้ามีการปรับครม.ก็ควรใช้โอกาสนี้ขอให้พิจารณาพรรคเล็กเข้าไปร่วมทำงานในฐานะที่พรรคทั้งหมด 11 พรรคได้ร่วมตั้งรัฐบาล โดยใช้ตัวแทนพรรคเล็กเป็นรัฐมนตรีเพื่อดูแลพรรคเล็กให้นโยบายของแต่ละพรรคได้รับการขับเคลื่อน และในฐานะที่ตนมีความอาวุโสสูงสุดใน 11 พรรคได้หารือกันว่า 1 ปีที่ผ่านมา เราไม่มีรัฐมนตรีจากพรรคเล็ก 11 พรรค หากมีการปรับก็ควรใช้โอกาสนี้เพื่อให้มีส่วนร่วมการบริหารประเทศ 

“สาเหตุที่ทำไมต้องเป็นคุณมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ผมดูแล้วเด็กคนนี้น่าจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ การจะทำให้เกิดการยอมรับคุณมงคลกิตติ์ก็ต้องคุยกับพรรคเล็ก และดูผลงานในสภาและการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาประเทศ เท่าที่อยู่ด้วยกันมา 1 ปีที่เป็นฝ่ายค้านอิสระ ผมได้มีโอกาสในการแนะนำว่าจะวางตัวอย่างไร ผมคิดว่าคุณมงคลกิตติ์เปลี่ยนนิสัยค่อนข้างมาก" นายพิเชษฐ กล่าว

นายพิเชษฐ กล่าวว่า ขณะนี้ใน 11 พรรคมีอย่างน้อย 7 พรรคให้การสนับสนุนนายมงคลกิตติ์ ในทางการเมืองต้องอยู่ด้วยการเจรจาและลายลักษณ์อักษร ถ้าตนเองไม่มีอะไรอยู่ในมือคงไม่กล้าออกมาแถลง อย่าให้ต้องประจานไปมากกว่านี้ อยากให้เป็นเรื่องภายในของพรรคการเมืองทั้ง 11 พรรค แต่เมื่อเป็นประเด็นออกมาทำให้ตนเองต้องออกมาชี้แจง ขณะนี้ประชาชนยอมรับนายมงคลกิตติ์ทั้งผลงานและการวางตัว คนจะมาบริหารประเทศต้องทันกับเหตุการณ์ ตนเป็นเองไม่ได้เพราะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปกติใหม่ ถึงที่สุดแล้วการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกฯ

นายพิเชษฐ ระบุว่า พรรคการเมืองขนาดเล็กที่เห็นด้วยจำนวน 7 พรรค ประกอบด้วย 1.พรรคประชาธรรมไทย 2.พรรคไทยศรีวิไลย์ 3.พรรคไทรักธรรม 4.พรรคพลังชาติไทย 5.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 6.พรรคพลังไทยรักไทย และ 7.พรรคประชานิยม

"ประชาธิปไตยขึ้นอยู่กับเสียงข้างมาก 7 พรรคเห็นด้วย 4 พรรคไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แต่เราขอโอกาสให้พรรคเล็กเข้าไปมีโอกาสการบริหารประเทศ ถึงที่สุดแล้วไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ไม่เป็นไรและยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลตามเดิม เพราะเป็นอำนาจของนายกฯ" นายพิเชษฐ กล่าว 

ถามว่า ถ้ามีโอกาสจะไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและช่วยให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ตนเองก็พร้อม และตนเองเคยบอกรองนายกฯว่าอะไรที่ขับเคลื่อนไปได้ก็ต้องพิจารณา แต่ตอนนี้ยังเป็นพรรคการเมืองเล็กอยู่