ไม่พบผลการค้นหา
"ธนวัฒน์ วงค์ไชย" ย้ำ จัดงานวิ่ง เป็นสิทธิพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย ไม่ทำประเทศเสียหาย ย้อนงานเดินเชียร์ลุง ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ถามผู้มีอำนาจเลือกปฏิบัติหรือไม่ ทั้งที่มีการแสดงออกสัญลักษณ์ทางการเมือง

นายธนวัฒน์ วงษ์ไชย คณะผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง พร้อมด้วยทนายความเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำการขัดต่อพระราชบัญญัติการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ โดยนายธนวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก กรณีการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงโดยไม่ได้ขออนุญาตการใช้สถานที่ และขัดต่อ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ โดยยืนยันว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง และขออนุญาตตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งเป็นกิจกรรมวิ่งจริง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่างานวิ่งอื่นๆ ไม่ได้แจ้งตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ฉะนั้นควรเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน และที่ผ่านมามีการแจ้งความดำเนินคดีกับกิจกรรมวิ่งของตัวเองเพียงฝ่ายเดียว 

ส่วนงานเดินเชียร์ลุง ที่มีกลุ่มคนที่ไปร่วมแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองแอบแฝง และมีภาพความรุนแรงเหมือน 6 ตุลาฯ 2519 กลับไม่ถูกดำเนินคดี ดังนั้นการเลือกปฏิบัติเช่นนี้ มองเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เท่าเทียม มีผลต่อความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม และความน่าเชื่อถือต่อตำรวจ เป็นเรื่องที่ประชาชนไม่สามารถรับได้ และไม่ใช่แค่ผู้จัดงานเท่านั้น ประชาชนที่ร่วมงานในหลายจุดทั่วประเทศก็ถูกเสนอคดีด้วยเช่นกัน อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ และฝ่ายผู้มีอำนาจให้ทบทวนกับสิ่งที่ทำลงไปเหมาะสมถูกต้องตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม จึงจะขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่ากิจกรรมวิ่งไล่ลุงมีนัยทางการเมืองแอบแฝงนั้น นายธนวัฒน์ กล่าวว่า งานวิ่งเพื่อแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ก็แฝงนัยทางการเมืองเช่นเดียวกัน ฉะนั้น ถ้างานลักษณะนี้จัดได้โดยไม่ต้องแจ้ง พ.ร.บ.การชุมนุมฯ ขอถามกลับว่า งานวิ่งไล่ลุงที่เป็นงานวิ่งจริงๆ นั้น เหตุใดจึงต้องแจ้ง พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ด้วย การแจ้งความดังกล่าวจึงเป็นเหมือนการปิดปากประชาชน ไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวแสดงออกทางการเมือง ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่จะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณียุบหรือไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ จะทำให้มีประชาชนมาร่วมงานวิ่งไล่ลุงที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น มองว่า "ขึ้นอยู่กับประชาชน" ที่จะมีความเห็นว่าหากการยุบพรรคมีเหตุผลที่ไม่สมควร อาจทำให้ประชาชนออกมาร่วมกิจกรรมมากขึ้น

สำหรับที่นายกรัฐมนตรีมองว่ากิจกรรมวิ่งไล่ลุงทำให้ประเทศเสียหายนั้น ตัวเองกลับคิดว่าจะไปเอาอะไรกับคนที่ระบุว่ามนุษย์มีเซลล์สมองเพียง 84,000 เซลล์ เพราะกิจกรรมที่จัดเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยซ้ำ มีร้านค้ามาออกร้านขายของเพิ่มรายได้อีกด้วย และขอถามกลับอีกว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลับไม่สามารถแก้ได้ ยืนยันว่า งานวิ่งของเราไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ถอนแจ้งความ เพราะการจัดกิจกรรม ถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่สามารถทำได้ ไม่ควรมีใครถูกหมายเรียก และถูกดำเนินคดี และยืนยันว่าไม่หวั่นไหวสำหรับการจัดกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อไป

ส่วนความพร้อมการจัดกิจกรรมในจังหวัดเชียงใหม่ ได้สถานที่เบื้องต้นที่ได้ตกลงไว้นั้น แต่เมื่อถูกกดดันจากผู้มีอำนาจ สถานที่ถูกยกเลิก ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสถานที่จัดงานใหม่ ซึ่งวันพุธที่ 22 มกราคมนี้ จะดำเนินการหาสถานที่ใหม่โดยต้องรอทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอบกลับมาว่าจะอนุญาตให้ใช้สถานที่หรือไม่ และไม่ตั้งเป้าหมายจำนวนคนที่จะเข้าร่วมกิจกรรม แต่สิ่งสำคัญกลับมองว่าประชาชนจะสามารถออกมาร่วมกิจกรรมได้หรือไม่ โดยเห็นว่าหากประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ประชาชนจะมีสิทธิเสรีภาพในการออกมาร่วมกิจกรรมโดยไม่ถูกขัดขวาง และขอเชิญทุกฝ่ายเข้าร่วม ด้วยความยินดี