ไม่พบผลการค้นหา
ศบค.แถลงพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มพรวดเดียว 11 คน ทั้งหมดเดินทางกลับจากต่างประเทศ อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันที่ 28 พ.ค. 2563 ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 11 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักตัวโดยรัฐ (State Quarantine) โดยผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,065 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้น 14 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วรวม 2,945 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 63 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงเดิมที่ 57 ราย

โดยผู้ป่วยทั้ง 11 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.เดินทางกลับจากอินเดีย 1 คน เพศหญิง อายุ 32 ปี เป็นนักท่องเที่ยว เดินทางมาถึงวันที่ 22 พ.ค. และเข้าพักที่โรงแรมใน จ.สมุทรปราการ

2.เดินทางกลับจากกาตาร์ 6 คน แบ่ง เป็นเพศชาย 5 คน อาชีพพนักงานนวด และเพศหญิง 1 คน เป็นแม่บ้าน เดินทางมาถึงวันที่ 22 พ.ค. และเข้าพักที่โรงแรมในกรุงเทพฯ วันที่ 26 พ.ค. ผลตรวจพบเชื้อโควิด -19

3.เดินทางกลับมาจากประเทศคูเวต 4 คน เป็นเพศชาย ทำงานที่แคมป์ของบริษัทต่างชาติ เดินทางมาถึงวันที่ 24 พ.ค. และเข้าพักที่โรงแรมในกรุงเทพฯ วันที่ 26 พ.ค.ผลตรวจพบเชื้อโควิด -19

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการนำคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ ในวันที่ 28 พ.ค. จะมาจากออสเตรเลีย 260 คน สหรัฐอเมริกา 100 คน และเวียดนาม 40 คน, วันที่ 29 พ.ค. กลับมาอีก 5 เที่ยวบิน จาก 6 ประเทศ รวม 399 คน วันที่ 30 พ.ค. มา 3 เที่ยวบิน วันที่ 31 พ.ค. 2 เที่ยวบิน วันที่ 1 มิ.ย. 3 เที่ยวบิน วันที่ 2 มิ.ย. 2 เที่ยวบิน วันที่ 3 มิ.ย. 3 เที่ยวบิน และ วันที่ 4 มิ.ย. 2 เที่ยวบิน

และมีคนไทยแจ้งความประสงค์กลับมาทางอากาศวันที่ 27 พ.ค.-30 มิ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศสอบถามจากทั่วโลก พบว่ามีประมาณ 10,878 คน ภายใน 1 เดือนนี้  แต่ลำดับก่อนหลังอยู่ที่เกณฑ์ความเร่งด่วน คือ ด่วนที่สุด คือ เป็นผู้ป่วย ตกค้างสนามบิน (ซึ่งน่าจะหมดแล้ว) วีซ่าหมดอายุ และ กลุ่มด่วนมาก คือ พระสงฆ์ นักเรียน-นักศึกษา คนตกงาน โดยสามารถรับรองได้ประมาณ 400 คนต่อวัน

สำหรับการใช้แพลตฟอร์ม ไทยชนะ.com ณ วันที่ 27 พ.ค. มีจำนวนกิจการ/กิจกรรมลงทะเบียน 120,953 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 14,719,447 คน จำนวนการเช็คอิน 38,851,693 ครั้ง เช็คเอาท์ 25,830,131 ครั้ง ประเมินร้านค้า 14,980,678 ครั้ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงเรื่องกิจการและกิจกรรมที่จะผ่อนคลายมาตรการที่ 3 ว่า ยังไม่มีข้อสรุปจนกว่าจะมีการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.นำประชุม

ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุป ไม่ว่าจะสนามมวย ร้านนวด ก็เป็นเพียงข่าว ยังไม่ยืนยัน แต่ที่บอกได้เป็นกลุ่มก้อนกว้างๆ คือ 1.ห้างสรรพสินค้า ที่ทำได้ดียังไม่มีการติดเชื้อ คนไปก็ใช้ไทยชนะเช็กอินเช็กเอาท์ กิจการนี้มีระบบดูแลอย่างดี อาจได้เปิดร้านรวงต่างๆ ภายในได้มากขึ้น กีฬา เพราะเป็นการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคได้ด้วย จะพยายามเปิดให้มากขึ้นโดยเฉพาะการซ้อมของนักกีฬาที่เป็นตัวแทนระดับต่างๆ ก็มีโอกาสเปิดมากขึ้น ส่วนเคอร์ฟิว แนวโน้มได้ปรับลดเวลาลงแน่ๆ จากเดิม 22.00-04.00 น. มาเป็น 23.00-04.00 น. ก็อาจจะลดลงไปอีก แต่จะเป็นเท่าไรให้รอข้อสรุปวันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.)

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อเปิดกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 3 สิ่งที่จะต้องมาพร้อมกันคือ ผู้ประกอบการต้องเข้าสู่การลงทะเบียนในแอพพลิเคชัน ไทยชนะ และผู้ใช้บริการก็ต้องใช้แอปพลิเคชันไทยชนะเช่นกัน เพื่อเช็กอิน-เช็กเอาต์ เนื่องจากกิจการ/กิจกรรมระยะที่ 3 มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง คนที่มาใช้บริการต้องได้รับการดูแลด้วย