ไม่พบผลการค้นหา
'จตุพร' บี้ 'ประยุทธ์' ลาออกนายกฯ อย่ารอให้ประชาชนมาขับไล่ แนะ ปชป.รับหน้าเสื่อคุย 'ประยุทธ์' กล่อม ส.ว.ร่วมมือแก้ รธน.ตั้ง ส.ส.ร. ชง ปชป.ถอนรัฐบาลทันที หาก ส.ว.เมินแก้ รธน. พร้อมฟันธง 'ธนาธร' พ้นสถานะ ส.ส.แน่

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านรายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์ ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 5 โดยยก 4 สถานการณ์กรณีศึกษามาวิเคราะห์การเมืองว่า “อยู่หรือไป” โดยนายจตุพร ระบุว่า เมื่อทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยกันให้เริ่มต้นแก้ รัฐธรรมนูญใน มาตรา 256 ซึ่งเป็นวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ออกแบบไม่ให้แก้ไขได้เลย หากไม่ได้รับความเห็นร่วมตกลงกันก่อน ส่วนการเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ญัตติเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญนั้น เมื่อต้องแก้ไข ม.256 เพื่อให้เลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากประชาชน มายกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว พรรคการเมืองควรมองข้ามการตั้ง กมธ.ศึกษา

“พรรคประชาธิปัตย์ช่วงหาเสียงเลือกตั้งได้เสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วน 7 พรรคค้านชัดเจนจะแก้ไข มาตรา 256 ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องไปศึกษากันอีก โดยมอบภาระให้พรรคประชาธิปัตย์ไปเจรจากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนตั้ง ส.ว. ให้ร่วมมือแก้รัฐธรรมนูญ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอา พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกจากร่วมรัฐบาล” นายจตุพร ระบุ 

นายจตุพร กล่าววา การตั้ง กมธ. เป็นการซื้อเวลา และไม่เกิดความเป็นจริงได้ มีคำถามว่า ต้องการความสำเร็จในการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ หากต้องการประชาธิปัตย์ต้องไปคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ดีกว่า และตกลงกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยกให้ประชาชน โดยมี สสร.เป็นตัวแทนยกร่าง ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการตั้ง กมธ. เพราะล้มเหลวตั้งแต่แรก จึงไม่มีความสำเร็จอย่าเสียเวลาศึกษา เพราะไม่มีวันได้เแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเริ่มด้วยประชาชนการแก้ไขจะเกิดเป็นจริงขึ้น

ส่วนกรณีเสนอปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ เพราะจะทำให้เสียระบบโควตาของแต่ละพรรคการเมือง และในอดีตไม่เคยมี

บี้ 'ประยุทธ์' ลาออกนายกฯ แก้ ศก.ไม่ได้

นายจตุพร กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้และการดำเนินโครงการที่ผ่านมาเป็นเพียงการซื้อหวยและไม่สามารถแก้ไขให้เศรษฐกิจดีได้ อีกทั้งยังเจอธรรมชาติลงทัณฑ์ ทั้งภาวะภัยแล้ง น้ำท่วม จนถึงขั้นต้องไปซื้อข้าวจากต่างประเทศ ดังนั้น การดำรงอยู่ของรัฐบาลนอกจากจะเสียงปริ่มน้ำแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาความทุกข์ให้กับประชาชน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถแก้ไขได้ รวมถึงไม่สามารถดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาได้อย่างสำเร็จ คนรวยก็รวยขึ้นคนจนก็ยิ่งจนหนัก

ดังนั้น ตนอยากสื่อสารไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ว่า เป็นนายกรัฐมนตรีมาก็นาน แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ควรจะลุกออกไปจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และยกให้กับคนที่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะมาตรการต่างๆได้พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้

“อดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน เมื่อแก้ไขเศรษฐกิจไม่ได้ เขาไม่รอให้ประชาชนมาไล่ และหากผมเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่อยู่ เพราะเมื่อแก้ไขเศรษฐกิจไม่ได้ ก็ต้องยอมรับความจริงกัน” นายจตุพร ระบุ

ฟันธง 'ธนาธร' โดนศาล รธน. สอยพ้น ส.ส.แน่

นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเคยวิเคราะห์ว่า คดีของนายธนาธรจะไม่รอด ทั้งนี้ สิ่งที่นายธนาธรเจอนั้นพวกตนเคยเจอกันมาหมดแล้ว

“ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีคุณสมบัติ การเป็น ส.ส. ของนายธนาธรนั้น อาจจะไม่รอดและตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับผม”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง