วันที่ 29 พ.ค. 2563 ที่รัฐสภา สมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ นำโดยนายวรพล แกมขุนทด นายกสมาคมฯ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนจากการได้รับผลกระทบโควิด-​19 ผ่านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ถึงพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อ ให้ช่วยนำปัญหาและข้อเรียกร้องเข้าไปอภิปรายในสภา

นายวรพล กล่าวว่า แท็กซี่ได้รับผลกระทบจากโควิด -​ 19 แต่การตรวจสอบคุณสมบัติรับเงินเยียวยาถูกระบุเป็นเกษตรกรจำนวนมาก ทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง จึงอยากให้พรรคฝ่ายค้านช่วยนำไปอภิปราย เพื่อให้ผู้มีอำนาจพิจารณาและวิธีการแก้ไขให้ถูกต้องและเหมาะสม พร้อมมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อประกอบด้วย

1.ขอให้ต่ออายุแท็กซี่จาก 9 ปี เป็น 12 ปี

2.ยกเลิกเเท็กซี่โอเค ที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและคนขับแท็กซี่

3.ยกเลิกประกาศกระทรวงที่อนุญาตให้รถป้ายดำมาวิ่งรับจ้างได้ ซึ่งผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะแท็กซี่ต้องเป็นป้ายเหลืองและอัตลักษณ์แท็กซี่ต้องมีสีและมีโป๊ะบนหลังคาเท่านั้น แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะออกกฎกระทรวง ให้รถยนต์ป้ายดำมาวิ่งรับจ้างได้ ซึ่งปัจจุบันมีรถ ป้ายดำวิ่งบริการผ่านแอพพลิเคชั่นกว่า 2 แสนคันมากกว่าแท็กซี่เท่าตัว ซึ่งไม่เป็นธรรมและส่งผลกระทบต่อรายได้ของแท็กซี่ 

4.ให้กระทรวงพลังงาน ออกบัตรส่วนลดต้นทุนพลังงานเชื้อเพลิงรถรับจ้างสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันต้นทุนแท็กซี่อยู่ที่ 1,900 บาทต่อวัน

5.ปรับราคาค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนจริง เพราะค่าโดยสารเกณฑ์นี้ใช้อยู่มาตั้งแต่ปี 2535 

นายจิรายุ รับปากว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวอภิปรายในวันนี้ พร้อมระบุถึงการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน ที่ผ่านมาว่า พรรคเพื่อไทยประเมินการอภิปรายตลอด 2 วันที่ผ่านมา โดยกังวลการที่รัฐบาลกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะ พ.ร.ก.กู้เงินฉบับแรก ที่ไม่ชัดเจนในเรื่องการใช้เงินและการหาเงินมาใช้หนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีได้ฉายาใหม่ว่า "ลุงตู่นักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา" โดยยืนยันว่า หากรัฐบาลมีความสามารถด้านเศรษฐกิจหรือหาเงินเป็น ไม่ใช้นโยบายแจกเงินอย่างเดียว วันนี้อาจไม่ต้องกู้เป็นล้านล้านบาท อาจกู้เพียงไม่กี่แสนล้านเท่านั้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะตรวจสอบต่อไปอย่างเข้มข้น คาดว่า พ.ร.ก.เงินกู้ฉบับแรก ในส่วน 1 ล้านล้านบาทนั้นจะเสร็จสิ้นในวันนี้และอภิปรายทั้ง 3 ฉบับเสร็จภายในสัปดาห์นี้

นายจิรายุ ยังตอบโต้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ ที่โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว ระบุว่ารัฐบาลอาจไม่ต้องกู้เงินถึง "1.9 ล้านล้านบาท" นั้น เห็นว่าในฐานะแบงก์ชาติควรแถลงต่อสาธารณะและชี้แจงเป็นเอกสารทางการให้ประชาชนได้รับรู้และคลายความสงสัยจึงจะถูกต้องเหมาะสม ไม่ควรพูดลอยลอย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อปกป้องรัฐบาลด้วยความคลุมเครือเช่นนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ธปท.ยันซอฟต์โลน ไม่ใช่เงินกู้ ไม่กระทบหนี้สาธารณะ-ปชช.ไม่ต้องรับผิดชอบภาษี
• ผู้ว่าแบงก์ชาติติง พ.ร.ก. ธปท.ออกซอฟต์โลน-กองทุน BSF ไม่ใช่ 'การกู้เงิน'
• เพื่อไทย เชิญแท็กซี่สะท้อนความทุกข์ยาก เสนอรัฐบาล 3 ข้อ ช่วยเหลือเยียวยา
• 'คนขับแท็กซี่' อัตวินิบาตกรรม ผูกคอเซ่นพิษ เงินเยียวยาโควิด-19
• 'เครือข่ายแท็กซี่' จี้รัฐหามาตรการเยียวยารายได้ที่หายไปในภาวะโควิด-19 ระบาด