ไม่พบผลการค้นหา
ตัวแทนนิสิตนักศึกษาแถลงข่าวกิจกรรม 'วิ่งไล่ลุง' จัด 12 ม.ค. 63 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลังถูกยกเลิกกระทันหันจากโรงแรมรัตนโกสินทร์ ชวนคนไทยวิ่งเรียกร้องรบ.ทำตามนโยบายที่หาเสียง-แก้ รธน.-หยุดเอื้อประโยชน์พวกพ้อง พร้อมเชิญ 'ประยุทธ์-ประวิตร' ร่วมงาน ขู่หากไม่ทำตามข้อเรียกร้องจะยกระดับมากกว่าการวิ่ง

ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย อดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะกรรมการแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงเพื่อประโยชน์ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย แถลงข่าวกิจกรรม 'วิ่งไล่ลุง' ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 มกราคม 2563 เวลา 04.30 - 08.00 น. เริ่มจากสนามฟุตบอล ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในเวลา 04.30น. ก่อนจะออกวิ่ง ในเวลา 05.30 น. วิ่งไปตามเส้นทางถนนพระอาทิตย์ ป้อมพระสุเมรุ ป้อมมหากาฬ ถ.นครสวรรค์ ถ.พะเนียง ถ.หลานหลวง มาที่สะพานผ่านฟ้า ถ.ราชดำเนิน และหยุดเพื่อวิ่งวนซ้ายรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 3 รอบ เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อประชาธิปไตยในประเทศที่กำลังจะตาย ก่อนจะกลับมาที่ท่าพระจันทร์

สำหรับกิจกรรมวิ่งไล่ลุงจะจัดถึงเวลา 08.00 น. ระยะทางรวมประมาณ 7 กิโลเมตรโดยประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนในเพจ 'วิ่งไล่ลุง' ไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนจ่ายเงิน 650 บาท จะได้รับเสื้อวิ่ง เหรียญสัญลักษณ์ และสติ๊กเกอร์งานวิ่ง หรือคนที่ไม่ได้วิ่ง ก็สามารถสั่งเสื้อยืด 'วิ่งไล่ลุง' ราคา 300 บาทได้ผ่านเพจเช่นกัน นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังมีกิจกรรมพิเศษสำหรับผู้ที่เคยชุมนุมกับ กปปส. หากท่านนำภาพถ่ายที่ในม็อบ กปปส. หรือนกหวีดลายธงชาติ สามารถนำมาโชว์ได้ที่งานและแลกรับเหรียญปราบกบฎได้ทันที อีกทั้งการวิ่งนี้ยังมีแขกรัฐเชิญคนพิเศษที่จะมาเซอร์ไพรส์เป็นประธานปล่อยตัวนักวิ่ง โดยทีมงานใบ้ว่าเป็นคู่ปรับคนสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ชอบใจเท่าไหร่

วิ่งไล่ลุง-เหรียญปราบกบฏ

โดยทุกคนที่เข้าเส้นชัยจะประกาศจุดยืนเส้นตาย 3 ข้อ คือ 1. เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขอให้รัฐบาลทำตามสัญญาที่เคยหาเสียงไว้ ทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทต่อวัน การปรับเงินเดือนขั้นต่ำของผู้จบปริญญาตรี 20,000 บาท และอาชีวะ 18,000 บาท และการเพิ่มราคาสินค้าเกษตรทุกตัวตามที่หาเสียง เช่น ยางพารากิโลกรัมละ 65 บาท ข้าวตันละ 18,000 บาท อ้อยตันละ 1,000 บาท โดยให้ระยะเวลารัฐบาลแก้ปัญหา 3 เดือน

2. ขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามประชาธิปไตย และปลดล็อกสิทธิเสรีภาพให้กับประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี

3. ขอให้หยุดใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องและหยุดรังแกผู้ที่เห็นต่าง เช่น กรณีนาฬิกา พล.อ.ประวิตร หรือที่ดิน นางสาวปารีณา ซึ่งข้อ 2-3 ขอให้รัฐบาลดำเนินการทำทันที โดยไม่มีการรีรอ ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่ดำเนินการทางกลุ่มจะยกระดับกิจกรรมให้มากกว่าการวิ่ง แต่จะเป็นอะไรนั้นยังไม่บอก

ทั้งนี้คณะกรรมการจัดงานยังส่งหนังสือเชิญผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมเพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ปิดถนนแล้วเดินในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้แล้ว

วิ่งไล่ลุง.jpg


เจ้าหน้าที่รัฐขัดขวางการแถลงข่าวและจัดงาน 'วิ่งไล่ลุง' ?

สาเหตุที่ย้ายสถานที่จัดงานแถลงข่าวมาเป็นลานโพธิ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เนื่องจากทางโรมแรมรัตนโกสินทร์ที่คณะกรรมการฯ จองห้องสีดา 1 กับทางโรงแรมเพื่อจัดแถลงข่าวจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในเวลา 10.00 น แต่สถานที่จัดแถลงข่าวถูกยกเลิก และจัดเป็นห้องประชุมปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์และสรุปผลการขับเคลื่อนการบริหารคุณภาพการศึกษา โดยกลุ่มพื้นที่การบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำเขตตรวจราชการ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน แทน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากทางโรงแรมว่ามีคนชื่อ 'ลูกตาล สุวรรณา' โทรมาขอยกเลิกห้องแถลงข่าว ขณะที่นายธนวัฒน์อ้างว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาทางโรงแรมถูกกดดันอย่างหนักจากผู้มีอำนาจ ไม่ให้ใช้สถานที่จัดแถลงข่าว

ทั้งนี้ นายธนวัฒน์ ยืนยันว่างานวิ่งครั้งนี้ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองและสามารถจัดได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐกำหนดไว้ ส่วนของ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ นั้นระบุว่า งานมหรสพ และงานกีฬา ได้รับข้อยกเว้น ไม่จำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ขณะที่เส้นทางการวิ่งได้ขออนุญาตการใช้เส้นทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ผ่านไปสองสัปดาห์ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอยากถามว่าเป็นงานนี้เพียงงานเดียวหรือไม่ที่ถูกจับตาจากผู้มีอำนาจ ทั้งที่เส้นทางการวิ่งนี้ก็เคยมีงานวิ่งจัดมาแล้ว วันและเวลาก็เป็นเหมือนงานวิ่งทั่วไป และงานเดินตามลุงหรืองานวิ่งเพื่อแผ่นดินก็เป็นงานการเมืองเช่นกัน

เมื่อถามว่า หากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตทางผู้จัดจะดำเนินการอย่างไร นายธนวัฒน์ กล่าวยืนยันว่าอย่างไรก็จะต้องจัดงานนี้ และงานนี้จะต้องมีขึ้นในวันที่ 12 มกราคม 2563 หรือหากไม่ได้รับอนุญาตก็ยืนยันว่าจะวิ่ง เพราะงานนี้ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และขอยืนยันว่างานนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนใด เพราะเงินที่จัดงานทุกบาทเกิดจากการสนับสนุนของนิสิตนักศึกษาและโลกออนไลน์ รวมไปถึงเงินที่ขายของที่ระลึกในงานที่ได้จากประชาชน นอกจากนี้ยังจะมีการจัดวิ่ง Volunteer Run ที่มีอาสาสมัครไปวิ่งทั่วประเทศ