'วอยซ์ ออนไลน์' จึงรวบรวม 5 ปัจจัยเสี่ยงการเมืองร้อนที่ แวดล้อมบริวาร รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2 ต้องเผชิญ ดังนี้
- วิ่งไล่ลุง
เปิดศักราชปี 2563 แห่งการทดสอบอันเป็นความหวังของการเปลี่ยนแปลงของประชาชนฝ่ายต้านตั้งแต่ครั้ง คสช. ปล้นอำนาจประชาชนเริ่มต่อติดมากขึ้นทุกขณะ แฟลชม็อบสกายวอล์กเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562 จุดติดเพียง 1 ชั่วโมง ได้สาดแสงแววตาแห่งความไม่พอใจของคนรุ่นใหม่จนเต็มพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5 พันคน สื่อต่างประเทศชี้ให้เห็นถึงสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงต่อการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปี ที่ถูกอำนาจเผด็จการทหารกดทับ
ต่อเนื่องถึงกิจกรรมวิ่งไล่ลุง 12 ม.ค. 2563 เพียง 1 ชั่วโมงหลังโปรโมท คนนับหมื่นก็ให้การตอบรับ อำนาจรัฐกดดันทุกวิถีทางแต่ก็บ่ยั่นพร้อมเปลี่ยนสถานที่ จากมธ.ท่าพระจันทร์ สู่สวนรถไฟ สปอร์ตไลท์จึงรอฉายจับคลื่นความเคลื่อนไหวของมวลชนบริสุทธิ์ คนรุ่นใหม่ กปปส. กลับใจ จะแสดงพลังได้เพียงไหน แต่อย่างน้อยที่สุดต้นปี 2563 จะเป็นครั้งแรกที่คนไทยเจ้าของประเทศจะร่วมกันยืนยันว่า ไม่กลัวอำนาจเถื่อน
- โหวตวาระ 2-3 ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563
กลไกรัฐสภายังคงเป็นความหวังหลักสำหรับการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ หลังล่าช้ามากว่า 3 เดือน จากการฝืนตั้งรัฐบาล500 ก็จะได้บทสรุปวันที่ 20 ม.ค. 2563 ในสภาพที่งูเห่าเริ่มแผ่แม่เบี้ยอย่างแจ่มชัด แต้มต่อจึงอยู่ที่ซีกรัฐบาล เสียงสนับสนุนผ่านกฎหมายคงฉลุย แต่รับรองว่าไม่ง่าย ช่วงของการอภิปราย ซีกฝ่ายค้านจะใช้ข้อมูลชำแหละความล้มเหลวของการจัดทำงบประมาณ และความไร้ประสิทธิภาพของรัฐราชการอันเต็มไปด้วยการทุจริต ตัวอย่างให้ดูในชั้นกรรมาธิการ จับโป๊ะบิ๊กกองทัพ ตั้งบริษัทกู้เงินหลักพันล้านไม่ต้องค้ำ ลงทุนเสียเปล่าก็ไม่เป็นไร
ลูกชิ่งที่จะตามหลังผ่านวาระ 3 บังคับใช้ ก็หนีไม่พ้นศาลรัฐธรรมนูญ 7 พรรคฝ่ายค้านพร้อมตรวจสอบต่อเนื่อง เล็งยื่นตีความการจัดทำงบฯ ขัดกฎหมายแม่ เพราะผู้นำรัฐบาล แถลงนโยบายรัฐบาลโดยไม่ชี้แจงรายได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 แน่นอนความคาดหมายไม่ได้อยู่ที่ผลทางกฎหมาย แต่จะเป็นทางการเมืองซึ่งจะกลายเป็นการเปิดประจานองคาพยพฝ่ายผู้มีอำนาจให้ประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามกันอีกว่า เหตุใดพล.อ.ประยุทธ์จึงทำอะไรก็ไม่ผิด
- ยุบพรรคอนาคตใหม่
1 นัดวินิจฉัย และ 1 นัดรับสำนวน ยุบพรรคอนาคตใหม่ จะเป็นอีกหนึ่งหัวเชื้อสำคัญที่จะทำให้ฝ่ายก้าวหน้า โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ยิ่งเอือมระอากับคนรุ่นเก่าที่ฉุดรั้งสังคมนี้ให้ล้าหลังมากยิ่งขึ้น หากพรรคที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยการเมืองแบบใหม่ ยึดโยงกันด้วยอุดมการณ์ต้องถูกทำลายด้วยความหวาดผวาโดยไร้เหตุผล ก็ต้องติดตามชม 6 ล้านเสียงที่เทให้พรรคสีส้มจะแอคชั่นกันออกมาในลักษณะไหน
นักการข่าวหลายสำนักพร้อมใจกันฟันธง อนาคตใหม่หนีไม่พ้นล่มสลายจากนิติสงคราม หรือ lawfare ที่พร้อมกร่ำหน่ำฟัน แต่เชื่อแน่ว่า ไม่ใช่ดาบแรกคดีอิลูมินาติสมคบคิดชวนขัน แนวโน้มคงรอดตัวไร้ผลทางกฎหมาย เพื่อสร้างจิตวิทยาการเมืองว่า ผู้มีอำนาจไม่ได้จงใจรังแกทุบคู่แข่ง แต่ก็หนีไม่พ้นหนังม้วนเดิมนี่เป็นเพียงเพื่อปูทางจัดฉากมายังดาบที่สองอย่างคดีกู้เงินแล้วจึงฟันฉับ พล็อตเรื่องถูกมองทะลุปรุโปร่ง แต่ฉากจบจะลงอย่างไรเกินจะคาดเดา
- เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจชำแหละ 'ประยุทธ์' กลางสภา ไร้ ส.ว.ช่วย
กลยุทธ์ต่อเนื่องของพี่ใหญ่ 7 พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย จัดทัพรัดกุมตั้งทีมงานมืออาชีพเตรียมเปิดซักฟอก นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานกรรมการกิจการพิเศษ พร้อมฝ่ายเสนาธิการอย่าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ประเมินจังหวะก้าวทางการเมือง เตรียมใช้ข้อมูลชำแหละรัฐบาล500 เปิดโปงให้เห็นเหลือบไรที่กัดกินประเทศไทยโดยไร้การตรวจสอบมาตลอด 5 ปี เบื้องต้นล็อกเป้า หางเครื่องทางกฎหมายและการต่างประเทศตั้งแต่ยุคคสช. ทั้ง วิษณุ เครืองงาม รองนายกฯ และดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ หวังชดเชยครึ่งทศวรรษที่คนไทยถูกเอาเปรียบโดยเนติบริกร และทูตบริการ ที่เป็นลูกหาบให้อำนาจนอกระบบ
ยิ่งใกล้งวดคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจ รับรองว่า จะได้เห็นการเปิดเผยเป้าหมายซักฟอกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครือข่ายรัฐมนตรีสีเทาที่ไร้ผลงานแถมยังมีชนักติดหลังกันบานเบอะ ทว่าต้องยอมรับเสียงเกินกึ่งหนึ่งหวังคว่ำรัฐบาลเป็นงานยาก แต่อย่างที่รับทราบกฎหมายกลายเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้าม การรับรู้ของประชาชนในสงครามความคิดต่างหากเป็นเรื่องสำคัญ การตื่นรู้ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงจะเร่งเร้าให้ผู้เสียภาษีเอือมระอา หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในที่สุด
- แก้รัฐธรรมนูญ
หัวใจสำคัญของวิกฤตการเมืองไทยกำลังกลายเป็นจุดโฟกัส กติกาที่ไม่ได้เกิดจากการมีส่วนร่วมของคนทุกกลุ่มในสังคมเพื่อจัดสรรให้แต่ละฝ่ายต่างเข้าถึงผลประโยชน์ทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียมกำลังถูกท้าทาย คงต้องจับตาความจริงใจของฝ่ายรัฐบาลที่คุมเกมการศึกษาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 โดยจุดลงตัวมีเพียงหนึ่งเดียวคือ มาตรา 256 กุญแจดอกสำคัญของการรือสร้างเริ่มต้นจัดทำกันใหม่ทั้งฉบับ เพื่อจัดสรรกติกาอยู่ร่วมกันที่ทุกฝ่ายยอมรับ
หากน้อยไปกว่านี้มีการแก้เพียงรายมาตราซึ่งไม่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงก็ยากยิ่งที่คนส่วนใหญ่จะยอมรับ เพราะเลือกตั้งไปก็ไม่มีอะไรให้ต้องคาดหวัง นายกฯคนเดิมยิ่งอยู่ยิ่งทน ไม่สนเจตจำนงแท้จริงจากประชาชนที่ถูกสูตรพิสดารบิดเบือน ความโกรธแค้นที่สั่งสมก็อาจมาถึงจุดปะทุที่อาจนำไปสู่การแตกหักอีกครั้งของสังคมไทย
5 ปัจจัยสุดทนรัฐบาลสืบทอดอำนาจในปี 2563 จึงต้องตามติดห้ามกระพริบตา แม้ 5 ปี คสช. จะสงบราบเรียบ แต่ก็เป็นแค่เรื่องมายาจากการใช้กฎหมายกดขี่ข่มเหง ความคับแค้นในจิตใจประชาชนที่ถูกย่ำยีเสรีภาพกำลังก่อตัวมากขึ้นทุกขณะ ทุกปัจจัยที่จะเกิดขึ้นจะยิ่งตัวเร่งให้เกิดเชื้อไฟรอวันระเบิด หากไม่ได้รับการปลดชนวนด้วยการเปิดที่ทางให้ทุกฝ่ายร่วมกันร่างกติกาที่จะอยู่ร่วมกัน เมื่อปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคืองตามทิศทางโลกเวียนมาบรรจบกับสถานการณ์การเมืองภายในที่ร้อนระอุ ก็คงไม่มีใครคาดคิดจุดจบรัฐบาลสืบทอดอำนาจจะเป็นอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
