ไม่พบผลการค้นหา
มาร์ก แฮมิล ผู้รับบท 'ลุค สกายวอล์กเกอร์' ในภาพยนตร์ Star Wars ประณามเฟซบุ๊กเห็นผลประโยชน์ยิ่งกว่าประเทศชาติ เหตุไม่ออกกฎคุมโฆษณาการเมือง-ข่าวปลอมช่วงก่อนเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ

มาร์ก แฮมิล นักแสดงชายที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars ในฐานะผู้รับบทเป็น 'ลุค สกายวอล์กเกอร์' ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาลบบัญชีในเฟซบุ๊กทิ้ง และจะเลิกใช้งานเฟซบุ๊กถาวร หลังจากเฟซบุ๊กประกาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าจะไม่มีการควบคุมหรือจำกัดการเข้าถึงโฆษณาทางการเมืองของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งแฮมิลมองว่าเป็นนโยบายที่ไม่เคารพข้อเท็จจริง และไม่ส่งเสริมความซื่อสัตย์ทางการเมือง

แฮมิลประกาศผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า เขาผิดหวังที่ 'มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก' ให้ค่ากับผลประโยชน์มากกว่าข้อเท็จจริง พร้อมติดแฮชแท็ก #PatriotismOverProfits เพื่อเรียกร้องให้ซักเคอร์เบิร์กคำนึงถึงประเทศชาติให้มากกว่าผลกำไร

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คนจำนวนมากเห็นด้วยกับข้อความของแฮมิล โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งระบุว่า เฟซบุ๊ก สูญเสียคนสำคัญที่เป็น 'ลุค สกายวอล์คเกอร์' ไปแล้ว แต่ก็มีผู้ใช้จำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ตั้งคำถามว่า การกระทำเช่นนี้จะช่วยแก้ปัญหาข่าวปลอมได้จริงหรือ

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งระบุว่า การเลิกใช้เฟซบุ๊กไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เพราะข่าวปลอมมีอยู่ในทุกๆ ที่ ไม่อย่างนั้นต่อไปก็อาจจะต้องเลิกใช้อินเตอร์เน็ตไปเลย ถ้าใช้วิธีคิดแบบเดียวกับแฮมิล

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กเพิ่งประกาศเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่าเฟซบุ๊กจะไม่ห้ามหรทอระงับการโฆษณาหรือการเผยแพร่ข้อมูลทางการเมืองในช่วงที่จะสำรวจสำมะโนประชากรออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเป้าหมายหนึ่งเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย.2020

อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กจะห้ามหรือระงับโพสต์และโฆษณาที่มีลักษณะแทรกแซงความคิดเห็นของประชาชนในการเข้าร่วมสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ เพื่อไม่ให้เกิดการชี้นำหรือเบี่ยงเบนความคิดเห็นประชาชนว่าควรหรือไม่ควรจะเข้าร่วมการสำรวจสำมะโนประชากร และห้ามข้อมูลที่ชักจูงว่าการมีส่วนร่วมในการสำรวจสำมะโนประชากรมีความสำคัญอย่างไร หรือจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาอย่างไร

ส่วนกรณีของ Google ได้ออกกฎข้อบังคับใหม่ก่อนหน้านี้ว่า ผู้พิมพ์-ผู้โฆษณาต่างๆ ไม่สามารถเลือกระบุได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของพวกเขาคือใครรวมถึงไม่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายโดยพุางเป้าที่ความเชื่อหรือความชอบทางการเมืองของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้

ขณะที่ Twitter นั้นสั่งห้ามโฆษณาทางการเมืองเผยแพร่ในแพลตฟอร์มของตัวเองตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ทั้งยังประกาศว่าจะไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลที่นักการเมืองหรือโฆษณาเกี่ยวข้องกับการเมืองต่างๆ นำเสนอผ่านช่องทางของตัวเอง

DeleteFacebook.jpg

ขณะเดียวกันเว็บไซต์ Mashable ก็รายงานว่า 'พลังอาจจะไม่ได้อยู่คู่กับ Facebook อีกต่อไป' ซึ่งเป็นการล้อเลียนประโยคอันโด่งดัง May the force be with you. ซึ่งบรรดาตัวละครที่เป็น 'เจได' ใน Star Wars รวมถึง 'มาร์ก แฮมิล' ในบทบาท 'ลุค สกายวอล์กเกอร์' มักพูดอยู่บ่อยๆ

Mashable ระบุว่าแฮมิลเป็นคนดังอีกรายหนึ่งที่ออกมาประณามเฟซบุ๊กและซักเคอร์เบิร์ก โดยก่อนหน้านี้ 'ซาชา บารอนโคเฮน' นักแสดงอังกฤษชื่อดังจากภาพยนตร์แนวเสียดสีประชดประชัน Borat และ Dictatorship ได้เขียนบทความเชิงวิพากษ์ สื่อสังคมออนไลน์ลง The Washington Post เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้วเช่นกัน

ส่วนฝ่ายบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ของ Facebook ได้เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดออกกฎกำกับดูแลข้อความทางการเมืองหรือโฆษณาทางการเมืองในสื่อสังคมออนไลนอย่างชัดเจน เฟซบุ๊กจึงตั้งกฎกติกาใหม่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นว่าประชาชนควรจะมีโอกาสได้ยินข้อมูลให้รอบด้านมากที่สุดจากผู้ที่เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้นำประเทศ

เฟซบุ๊กระบุด้วยว่า ข้อมูลที่เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว จะนำไปสู่การถกเถียงอภิปรายต่อไปได้

ท่าทีดังกล่าวของเฟซบุ๊กแตกต่างจากคำแถลงของ 'แจ็ค ดอร์ซี' CEO ของ Twitter ซึ่งประกาศแบนโฆษณาทางการเมืองทั้งหมดจากแพลตฟอร์มทวิตเตอร์เมื่อเดือน ต.ค.2019 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งเปรียบเทียบว่าเฟซบุ๊กกลายเป็นจักรวรรดิ ซึ่ง 'ลุค สกายวอล์คเกอร์' จะต้องทำลาย 

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายระบุว่า เห็นด้วยกับการปล่อยให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือโฆษณาทางการเมืองในาสังคมออนไลน์ แต่ควรมีวิธีให้ผู้ใช้งานสามารถติดป้ายหรือข้อความเตือนได้ในกรณีที่พบข้อมูลเท็จหรือบิดเบือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: